เขาคือ นายทนุธรรม จันโทกุล วัย 56 ปี เจ้าของฉายาที่เคยถูกเรียกกันในวงการกู้ภัยว่า “กู้ภัยหน้าผี” ซึ่งปัจจุบันได้มีคนเปลี่ยนสมญาใหม่ให้เขาเป็น “กู้ภัยเทวดา”
ผมได้ดูคลิปย้อนหลังทาง Youtube ที่ทางช่อง 8 อัพโหลดไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วเกิดความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งเวทนาในชะตากรรม ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมและตื้นตันใจในความตั้งใจดีอันแน่วแน่ของชายคนนี้ และที่สุดแล้วผมจึงไม่ลังเลที่จะนำเรื่องราวของเขามาถ่ายทอดต่อในบล็อก “ไอดอลแมน” นี้
คุณลุงทนุธรรม หรือที่เพื่อนร่วมวงการกู้ภัยเรียกว่า “ป๋า” เคยประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกในเหตุการณ์รถบรรทุกแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ.2533 ซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งนั้นก่อให้เกิดความเสียหายและมีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นฝันร้ายที่ยังหลอกหลอนใครหลายคนอยู่ รวมถึง “ป๋า” ที่ถึงแม้จะรอดชีวิตมาได้ด้วยการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่นำส่งโรงพยาบาลได้ทัน แต่ “ป๋า”ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกไฟคลอกเป็นบริเวณกว่า 40 % ของร่างกาย ซึ่งหมอบอกว่า ต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาถึง 4 ปี
แต่ด้วยความอึดอัดและไม่อยากนอนโรงพยาบาล “ป๋า” จึงตัดสินใจหนีออกมา หลังจากนอนพักรักษาตัวอยู่ได้เพียง 4 เดือนและผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 9 ครั้ง
เมื่อหนีออกมาจากโรงพยาบาล แทนที่จะกลับไปนอนพักหรือใช้ชีวิตอย่างคนเจ็บ ทว่า “ป๋า”กลับตั้งเจตจำนงว่าจะเข้าไปเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของป่อเต็กตึ๊ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณของมูลนิธิดังกล่าวที่ช่วยชีวิตตนไว้ จึงอยากจะใช้ชีวิตที่รอดมาได้ในการทำประโยชน์ส่งต่อแก่ผู้เดือดร้อนรายอื่น
แต่สภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อยก็กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการจะทำตามความตั้งใจของป๋าในยุคแรกๆ เพราะพิษจากไฟนรกคราวนั้นไม่ได้ทำลายแค่ผิวหนังของป๋า ทว่ายังพาเอาประสาทสัมผัสของดวงตาข้างขวาและหูข้างซ้ายของป๋าไปด้วย แต่ป๋าก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เมื่อยังเข้าร่วมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไม่ได้ในช่วงแรก ป๋าจึงเข้าไปทำงานกับชมรมวิทยุฉิมพลี ซึ่งทำงานอาสาสมัครในลักษณะเดียวกัน และป๋ามีคนรู้จักอยู่ในชมรมดังกล่าว ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือให้เข้ามาเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของป่อเต็กตึ๊งสมใจ
แม้เมื่อเข้ามาเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฯได้แล้ว ป๋าก็ยังต้องเผชิญกับคำปรามาส สบประมาทในช่วงแรกๆจากกู้ภัยคนอื่นๆ ในทำนองว่า สภาพร่างกายแบบนี้น่าจะไปรักษาตัวมากกว่าจะมาช่วยเหลือคนอื่น แต่ป๋าทนุธรรมก็ยังยืนหยัดในความตั้งใจอันแน่วแน่ของตน
ซึ่งอันที่จริง ป๋าไม่ได้แค่ความตั้งใจเท่านั้น แต่ป๋ายังสามารถปฏิบัติงานช่วยเหลือ กู้ภัยได้จริง และทำได้ดีจนกลายเป็นที่ยอมรับทั้งของเพื่อนร่วมวงการและประชาชนทั้วไปในเวลาต่อมา
ฉายา “กู้ภัยหน้าผี” กลายเป็นที่รู้จักและกล่าวขวัญ ในฐานะที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยที่เดินหน้าปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เต็มที่ จากคำบอกเล่าของเพื่อร่วมงาน ป๋าทนุธรรมจะเป็นมักจะขี่มอเตอร์ไซค์ฮาเลย์ไปถึงจุดเกิดเหตุเป็นคนแรก ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของฉายา “โกสต์ไรด์เดอร์ ” อีกฉายาหนึ่งที่กู้ภัยหนุ่มๆเรียกป๋า
นอกจากนี้ วีรกรรมอันน่ายกย่องของ “กู้ภัยหน้าผี” ยังปรากฎเด่นชัดในช่วงมหาอุทกภัย เพื่อนร่วมงานเล่าว่า ป๋าจะเป็นคนลุยเข้าไปลากจูงศพผู้เสียชีวิตที่ลอยตามน้ำออกมา ซึ่งไม่ค่อยมีอาสาสมัครคนใดอยากรับหน้าที่ดังกล่าว แต่ “กู้ภัยหน้าผี” คนนี้ยินดีทำอย่างไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึง จนกลายเป็นบุคคลที่เป็นที่ต้องการและถูกเรียกหาเสมอ
และด้วยวีรกรรมเด่นในช่วงน้ำท่วม ทำให้เขาได้รับสมญานามใหม่เป็น “กู้ภัยเทวดา” เรื่องของเรื่องก็คือว่า ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2554 ป๋าทนุธรรมไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแถวบางบัวทอง มีสื่อมวลชนรายหนึ่งที่ตามไปทำข่าว และเรียกฉายาป๋าทนุธรรมว่า “กู้ภัยหน้าผี” เมื่อชาวบ้านได้ยิน จึงทักท้วงให้เปลี่ยนฉายาใหม่ เรียกเขาว่า “กู้ภัยเทวดา” แทน
แต่สำหรับความรู้สึกของเจ้าของฉายา ป๋าทนุธรรมบอกว่า ไม่ว่าใครจะเรียกอย่างไรเขาก็ไม่สน เพราะสิ่งสำคัญในใจของเขาคือ การได้ทำหน้าที่ข่วยเหลือผู้เดือดร้อน ซึ่งเป็นปณิธานอันแน่วแน่ แม้บางครั้งกำลังใจจะสั่นคลอนไปบ้าง อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมกลับมา แล้วพบว่าสำนักงานกู้ภัยของตนเองถูกน้ำท่วม พัดพาทรัพย์สินสูญหายไปเกือบหมด แต่เขาก็ไม่ท้อ ยังลุกขึ้นยืนหยัดและเดินหน้าทำความดีต่อไป และเมื่อได้รับคำถามว่า ตั้งใจจะทำต่อไปถึงเมื่อไหร่ กู้ภัยเทวดาก็ตอบอย่างมั่นใจว่า
“จะทำไปจนตายครับ….!!”
(ชมคลิป รายการ "ปากโป้ง" สัมภาษณ์ คุณทนุธรรม จันโทกุล "กู้ภัยหน้าผี/กู้ภัยเทวดา")
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น